ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย สำให้หน้าเราเป็นสิวผิดอ่ะ นานๆมันก็ลามเป็นอักเสบ เกลียดมากเลยเจ้าสิวผดเนี้ยะ หายอยากนะั แต่ก็ได้ไปหาวิธีรักษาสิวผดกัน ลองไปทำดูเจ้าสิวผดน้อยที่รังควานใจคุณจะได้หายไปเสียที
นี้ไม่ใช่หน้าเรานะ
สิวผด (Acne Estivalis)
จัดเป็นสิวประเภทหนึ่ง ที่พบได้บ่อยๆ มีลักษณะคล้ายผดผื่นเล็กๆและแหลม
โดยพบว่า มักจะดูเรียบหรือดีขึ้นในตอนเช้า และจะเห่อๆ ในตอนบ่ายๆ
ผื่นอาจมีสีแดงและคันได้ หากผู้ป่วยล้างหน้าบ่อยขึ้น มักเป็นมากขึ้น
และหากรักษาไม่ถูกต้องจะเป็นมากขึ้น บริเวณที่พบได้บ่อยๆ คือ บริเวณใบหน้า
โดยเฉพาะ หน้าผาก ขมับ สิวผดมีทั้งประเภทอักเสบและไม่อักเสบ
ที่มาและสาเหตุของสิวผด
สิวผดมาจากหลายสาเหตุ ที่พบบ่อยมีได้ดังนี้
1. สาเหตุจากความร้อน
2. แสงแดด
3. การเช็ดถูหน้าบ่อยๆ หรือ การเช็ดถูหน้าแรงๆ
4. เครื่องสำอางบางประเภท
5. บางครั้ง เชื่อว่า เชื้อรา P.OVALE มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
การป้องกันและแก้ไขปัญหาสิวผด
1. ลดการรบกวนต่อผิวหน้าให้น้อยที่สุด (Mechanical Irritation) เช่น การนวดหน้า, การขัดหน้า, หรือเช็ดถูหน้าบ่อยๆ
2. ล้างหน้าเฉพาะที่จำเป็น หรือบริเวณที่ผิวมัน เพราะ การล้างหน้าบ่อยๆ จะทำให้สิวผด รุนแรงมากขึ้นได้
3. ลด หรือหลีกเลี่ยง การใช้ครีมหรือยาที่ทำให้ผิวหน้าระคายเคืองมากขึ้น
(Chemical Irritation) เช่น การใช้ยารักษาสิวประเภท Retinoic Acid,
Benzoyel Peroxide AHA, BHA เป็นต้น
4. ควรล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า, หลีกเลี่ยงการใช้สบู่ และไม่ควรใช้น้ำอุ่นล้างหน้า และควรล้างหน้าไม่เกิน 2-3 ครั้งต่อวัน
5. ควรหลีกเลี่ยงแสงแดด และใช้ครีมกันแดดทุกครั้งที่ต้องออกนอกบ้าน
ควรเลือกกันแดดที่มี SPF >15-30 และมีค่า PA++ เป็นอย่างน้อย
6. ไม่ควรซื้อยามารักษาผื่นเอง เพราะมักทำให้เป็นมากขึ้น
และยาที่หาซื้อได้จากร้านขายยา มักเป็น STEROID ซึ่งมีผลข้างเคียงมาก
7. ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังที่มีความชำนาญ เพื่อหาสาเหตุ และพร้อมทั้งการแก้ไขและรักษาที่ถูกต้องต่อไป
ลดการเกิดสิวผด
1. รักษาความสะอาด ควรล้างหน้าอย่างน้อยวันละ 2-3 ครั้ง เพื่อลดความมัน
2. หลังทำกิจกรรม ที่มีเหงื่อออกมาก ควรล้างหน้าทุกครั้ง เพื่อชำระล้างสิ่งสกปรก ความมัน และแบคทีเรียบนใบหน้า
3. ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า
ที่มีสามารถขจัดแบคทีเรีย อันเป็นสาเหตุของการเกิดสิว หรือที่มีส่วนผสม
ของสารสกัดจากพืชธรรมชาติ ที่เหมาะกับสภาพผิว
4. ระหว่างที่เป็นสิว
ควรงดใช้ผลิตภัณฑ์ใส่ผม หรือเครื่องสำอางที่มีความเหนียวเหนอะหนะ
เพราะสารในผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะตกค้างอยู่แถวๆตีนผม ซึ่งจะทำให้เกิด
การระคายเคืองและเป็นสิวขึ้นได้
5. ห้ามบีบหรือแกะสิวเป็นอันขาด เพราะจะทำให้เกิดรอยแผลเป็นที่รักษาได้ยาก
6. ควรรักษาสุขภาพ โดยทั่วไปให้ดีอยู่เสมอ เช่น รับประทานผัก ผลไม้ น้ำผลไม้ และน้ำสะอาด ให้มากๆ
7. พยายามอย่าเครียดหรือนอนดึก พักผ่อนให้เพียงพอ การเครียดมากๆจะทำให้ต่อมไขมันทำงานหนัก
สิวผดเป็นสิวที่ขึ้นง่าย หายเร็ว
มักไม่อักเสบเป็นหัวหนอง หรือสิวอุดตัน แต่มักจะเกิดขึ้นบ่อยๆ
จนเป็นที่รำคาญ การได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ผิวหนัง จะทำให้สิวผดหายเร็ว
และสามารถป้องกันไม่ให้ขึ้นมาอีกได้ ในระยะยาว
วันศุกร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2555
วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2555
เคล็ดลับผิวขาว และการดูแลผิว หยุดอายุผิว เพื่อความเยาว์วัยของคุณ
ถ้ามีครีมบำรุงที่ช่วยให้คุณมีผิวที่เยาว์วัยและสดใส
คุณก็ไม่จำเป็นจะต้องดูแลตัวเองมากนักใช่ไหมค่ะ
แต่ถ้าคุณหยุดอายุของผิวไว้ไม่ได้
งั้นเรามาดูปัญหาของการทำร้ายผิวของคุณกันดีกว่าค่ะ
![]() |
ความเป็นจริงแล้วผิวพรรณ ใบหน้า และระบบต่างๆ ภาย ในร่างกายของเราทำงานเหมือนเข็มสั้นเข็มยาวที่เดินไปเรื่อยๆ ผิวพรรณของเราก็เช่นเดียวกัน เมื่อเวลาผ่านไปวัยแรกสาวก็ร่วงโรยตามกาลเวลา หนำซ้ำหากดูแลและรักษาผิวไม่ดี ผิวของคุณก็จะเสื่อมสภาพลง ดูแก่ก่อนวัยอันควรได้ง่ายๆ
มร.เกล็นน์ เชนี่ย์ และ มิส เค.ซี.ฮอลลี่ ผู้เปิดประเด็นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของยีนแห่งความอ่อนเยาว์ จนได้รับการยอมรับจากหลายประเทศทั้วโลก งั้นเราลองมาอัพเดทเทรนด์ใหม่ๆ ก่อนเวลาจะพรากความอ่อนเยาว์เราไปมากกว่านี้ |

สำหรับสาวๆ
แล้วเมื่อเวลาผ่านไปสิ่งที่เราต้องการ คือคงความสดใส ดูอ่อนเยาว์
ทั้งภายในและภายนอก ให้คงความอ่อนเยาว์อยู่เสมอ ซึ่งจากภายนอก คือผิวพรรณที่
ปราศจากริ้วรอยก่อนวัย สัมผัสเรียบเนียน ดูเปล่งปลั่ง ส่วนภายใน
คือความรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า มีพละกำลังทั้งร่างกายและสมอง
พร้อมทำกิจกรรมต่างๆ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเราอายุมากขึ้น
คือร่างกายไม่สามารถ
ตอบสนองความต้องการได้
อย่างที่ตั้งใจไว้ สัญญาณแห่งความร่วงโรยแห่งวัยที่สังเกตได้คือ
อาการเฉื่อยชา เซื่องซึม หงอยเหงา
สูญเสียการควบคุมที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ
การแสดงออกของยีนก็จะเปลี่ยนแปลงไป ส่งผลต่อความรู้สึกอ่อนเยาว์ของร่างกาย
ส่วนในด้านของสัญญาณแห่งความร่วงโรยของผิวนั้น ก็ได้แก่ ริ้วรอย
โครงสร้างผิวอ่อนแอ ความสม่ำเสมอกันของสีผิว ความชุ่มชื้น
ของผิวลดลง สภาพผิวไม่เรียบเนียนกระจ่างใส และรูขุมขนกว้างขึ้น ฯลฯ
|

ทุกคนคงเคยสงสัยว่า
ทำไมคนที่อยู่ในช่วงอายุหรือวัยเดียวกันแต่กลับมีริ้วรอยหรือสัญญาณแห่งความ
แก่ชราไม่เท่ากัน
นี่เลยกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการศึกษาการทำงานของยีนในร่างกายมนุษย์ที่มีผล
ต่อความเสื่อมชรา ซึ่งไม่ได้ศึกษาเพียงแค่ 1-2 ยีน
แต่ศึกษารายละเอียดลึกซึ้งทั้งกลุ่มยีน
จนสามารถระบุการทำงานของยีนแต่ละตัวได้
และพบว่าการทำงานของยีนในร่างกายของแต่ละคนมีการแสดงออกแตกต่างกัน
หากเปรียบเทียบกลุ่มยีนกับวงออเครสต้า
ถึงแม้แต่ละวงจะบรรเลงเพลงเดียวกันแต่ย่อมมีความไพเราะแตกต่างกัน
เนื่องจากยีนแต่ละตัวจะทำหน้าที่ของตนเช่นเดียวกับหน้าที่ของเครื่องดนตรี
แต่ละชิ้นในวง หากเครื่องดนตรีเพียงชิ้นเดียวในวงเกิดปัญหา
ย่อมส่งผลให้การบรรเลงเพลงขาดความไพเราะ
เปรียบเหมือนกับความเสื่อมชราของยีนตัวใดตัวหนึ่งย่อมมีผลต่อความร่วงโรยของ
ผิวพรรณได้ด้วยเช่นกัน
|

ปัจจัยที่เป็นตัวเร่ง
ให้ยีนทำงานผิดปกติ ส่วนหนึ่งเกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้น
ไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล
โดยไลฟ์สไตล์ที่ส่งผลกระทบต่อความร่วงโรยของผิวอย่างร้ายแรง นั่นก็คือ การสูบบุหรี่
ซึ่งนอกจากจะทำให้ผิวดูแก่ก่อนวัยแล้ว
การสูบบุหรี่ยังเข้าไปทำลายสุขภาพและเป็นตัวการในการสร้างสารอนุมูลอิสระออก
มาทำลายเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย
รวมถึงการออกกำลังกายกายและการรับประทานอาหาร สิ่งเหล่านี้ล้วนสามารถส่งผล
ต่อการทำงานของยีนในร่างกายคนเราได้ทั้งสิ้น และอีกประการที่สำคัญคือแสงแดด
ที่ไม่เพียงแต่จะทำลายโปรตีนบนผิวเท่านั้น แสงแดดยัง
เข้าไปทำลายถึงระดับเซลล์ และส่งผลต่อการแสดงออกของยีน
โดยหากเปรียบเทียบเม็ดสีผิวที่ได้รับผลกระทบจากแสงแดดระหว่างคนเอเชียกับคน
ยุโรป
จะพบว่าคนเอเชียจะมีเม็ดสีที่แข็งแรงกว่าจึงทำให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์
กว่า แต่จะเกิดฝ้า กระได้ง่ายกว่า ส่วนคนในโซนยุโรป ปัญหาที่พบ คือริ้วรอย
ผิวเหี่ยวย่น มากกว่า
|

ปัจจัยสำคัญ
คืออาหารที่ช่วยให้การทำงานของยีนคงประสิทธิภาพดี
ดังนั้นเราจึงควรบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักและผลไม้หลากสี เช่น
สีส้ม สีแดง สีเหลือง สีเขียว อย่าเน้นไปที่สีใดสีหนึ่งเพียงอย่างเดียว
เพราะทุกอย่างมีประโยชน์หมด มีการค้นพบว่า
คนที่ทานผักผลไม้สม่ำเสมอจะมีผิวที่ดูชุ่มชื้นและเต่งตึงมากกว่าคนที่ไม่ได้
ทาน
นอกจากนี้เราไม่ควรบริโภคอาหารที่มีส่วนประกอบที่มีน้ำตาลมากเกินไปเพราะ
น้ำตาลจะเข้าไปทำลายเซลล์เนื้อเยื่อต่างๆ และลดประสิทธิภาพการทำงานของยีน
รวมถึงการทานเนื้อสัตว์
หรืออาหารจานด่วนก็ส่งผลให้ผิวพรรณและสุขภาพดูแก่ก่อนวัยและมีเปอร์เซ็นต์
การเสียชีวิตก่อนวัยอันควรสูงด้วย
นอกจากนี้ยังพบว่า
สารสำคัญในชาเขียวช่วยเร่งการทำงานของอีสาลติน
เสริมสร้างโครงสร้างผิวให้แข็งแรง ยกกระชับ และเต่งตึง
รวมถึงสารแคโรทีนอยด์ที่อยู่ในพืชผักผลไม้หลากสี
ช่วยป้องกันผิวจากแสงแดดได้
|

ปัญหาเรื่องผิวพรรณ
และสร้างความกังวลใจให้กับสาวๆ มีอยู่ไม่มาก แต่ก็ทำให้สาวๆนั้น
วิตกกังกลกับมันได้เลยทีเดียว
ซึ่งผู้หญิงสมัยใหม่ก็รู้จักดูแลตัวเองอยู่แล้ว
จากการสอบถามบรรดาแพทย์ ทำให้ทราบว่า สภาพผิวที่จัดว่าเป็นผิวที่สวย คือ
...
|
วันพุธที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2555
สวยใส แบบไทย ๆ ด้วยสมุนไพรใกล้บ้าน
สาวสวยใส แบบไทย ๆ ด้วยสมุนไพรใกล้บ้าน (สสส.)
สาว ๆ ที่รักสวยรักงามฟังทางนี้ วันนี้ Tips สุขภาพ มีเคล็ดลับในการแต่งสวยในฉบับประหยัดมาฝาก ไม่ต้องเสียเงินซื้อเครื่องสำอางแพง ๆ ไม่ต้องเสี่ยงกับสารต่าง ๆ ที่ผสมมาโดยที่เราไม่รู้ ...เคล็ดลับที่ว่า ไม่ใช่อะไรเลย นอกไปเสียจาก “สมุนไพร” ที่มีอยู่คู่บ้านเรานี่เอง
พืชสมุนไพรที่ว่านี้มีทั้งผัก ผลไม้ต่างๆ อย่างมะนาว (limes), สัปปะรด (pineapples) สมุนไพร ได้แก่ ชา (tea), ชะเอม (licorice) น้ำมัน อาทิน้ำมันงา (sesame oil), น้ำมันละหุ่ง (eastor oil)และธัญพืชต่าง ๆ ได้แก่ ข้าวโอ๊ต, น้ำผึ้ง, และ ไขผึ้ง (bees wax)

วิธีการทำ : เริ่มที่นำส่วนผสมทั้งหมดมาผสมให้เข้ากัน ถูเบาๆ บริเวณผิวที่มีปัญหา พอทั่วไว้ประมาณ 10 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่นให้สะอาด

ตามติดมาด้วยครีมล้างหน้ามะขาม สำหรับผิวมัน สรรพคุณใช้ล้างหน้าแทนสบู่ เพื่อชำระล้างสิ่งสกปกแก่ผิว ทำให้ใบหน้าขาวนุ่มนวล ส่วนผสมก็มีมะขามเปียก ที่เอาใยและเมล็ดออกหมดแล้ว 2-3 ฝัก น้ำอุ่น 2 ช้อนโต๊ะ นมสด 6 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้งบริสุทธิ์ 1 ช้อนชา
ขั้นตอนการทำเพียงนำมะขามเปียกมาคั้น กับน้ำอุ่นและนมสด กรองด้วยผ้าขาวบาง เติมน้ำผึ้งคนให้เข้ากัน นำไปบดให้ละเอียดแล้วทาบาง ๆ ให้ทั่วหน้า รอให้แห้งล้างออกให้สะอาด แต่ต้องจำไว้เสมอนะคะว่าต้องเก็บครีมล้างหน้ามะขามไว้ในตู้เย็น หรือนำไปนึ่งก่อนเก็บ

เพียงแค่นี้คุณสาว ๆ ก็จะมีผิวสวย แถมยังมีเงินเก็บใส่กระเป๋าให้อุ่นใจอีกด้วย
วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2555
วันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555
ออยเช็ดหน้า ออยเช็ดเครื่องสำอางค์
ออยเช็ดหน้า ออยเช็ดเครื่องสำอางค์ สิ่งที่คุณก็ทำเองได้!
เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่เอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) เชื่อว่าสาวๆ หลายๆ คนต้องการสำหรับ ออยเช็ดหน้า หรือ ออยเช็ดเครื่องสำอางค์ แน่นอนว่าสาวๆ ทุกๆ คนจะมีวิธีเพิ่มความมั่นใจที่เหมือนๆ กันนั่นคือ การแต่หน้า แต่เมื่อในแต่ละวันผิวหน้าของสาวๆ อย่างเราจะต้องรับกับสารเคมีที่อยู่ในเครื่องสำอางค์ตลอดทั้งวันก็ต้องมีการ ชำระล้างบ้าง นี้ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้สาวๆ ทั้งหลายมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ ออยเช็ดหน้า หรือ ออยเช็ดเครื่องสำอางค์ เพื่อจะทำให้ผิวหน้าสะอาดหมดจรดจริงมั้ยหล่ะค่ะ แต่ก็มี ออยเช็ดหน้า หรือว่า ออยเช็ดเครื่องสำอางค์ บางยี่ห้อที่ไม่สามารถชะล้างเครื่องสำอางค์บนในหน้าได้อย่างหมดจรดและยัง เป็นสาเหตุทำให้ผิวหน้าของสาวๆ เป็นสิวได้อีกด้วยนะค่ะ แต่วันนี้เอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) จะพาสาว...สาวๆ ได้รู้จักกับวิธีทำ ออยเช็ดหน้า หรือ ออยเช็ดเครื่องสำอางค์ ที่ทำให้ผิวหน้าสะอาดหมดจรดอย่างที่ต้องการแน่นอนค่ะ งั้นก็อย่ามั่วรอช้าตามเอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) ไปดูกันเลยนะค่ะว่า ออยเช็ดหน้า หรือว่า ออยเช็ดเครื่องสำอางค์ นี้จะทำให้ผิวหน้าของคุณสาวๆ สะอาดหมดจรดได้ดีแค่ไหนค่ะ รับรองค่ะว่าทริปนี้สาวๆ จะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนค่ะวิธีทำ ออยเช็ดหน้า ออยเช็ดเครื่องสำอางค์
ส่วนผสม
- น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ 1 ถ้วย- น้ำว่านหางจระเข้ (ลองดูตามร้านขายยา แต่ถ้าหาไม่ได้จริง ๆ ใช้น้ำกลั่นแทนก็ได้) 1 ถ้วย
วิธีทำ
- เทน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ลงในน้ำว่านหางจระเข้หรือน้ำกลั่น เวลาจะใช้ก็เขย่าน้ำกับน้ำมันให้เข้ากัน จาก นั้นก็จุ่มแผ่นสำลีแล้วนำมากดเบา ๆ บริเวณดวงตาเป็นเวลาสองสามนาที แล้วค่อยเช็ดออกไปทางใบหูเบา ๆ ทำแบบนี้กับดวงตาอีกข้างและทั่วทั้งใบหน้าขอขอบคุณข้อมูลการดูแลผิวสวยผิวขาวจาก lisa ขอขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)